เกี่ยวกับโรงเรียน
มูลนิธินวัตกรรมการศึกษาทำบันทึกข้อตกลงกับ บริษัท แสนสิริ รามอินทรา จำกัด เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2549 ขออนุญาตจัดตั้ง
โรงเรียนบ้านของเล่นเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 จากนั้นได้ดำเนินการเปลี่ยนชื่อ จากโรงเรียนบ้านของเล่น เป็นโรงเรียนอนุบาลต้นกล้าสาธิต เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2550 ต่อมาได้ขออนุญาตจัดตั้งโรงเรียนสาธิตพัฒนา เปิดสอนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ตั้งแตวั่นที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 หลังจากนั้น ในวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ได้โอนกิจการโรงเรียนอนุบาลต้นกล้าสาธิต
และโรงเรียนสาธิตพัฒนาให้กับ บริษัท เนชั่นแนล เอ็คยูเคชั่น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นผู้รับใบอนุญาต และได้เปลี่ยนชื่อเป็น
บริษัท เอ็นอีดี แมแนจเม้นท์ จำกัด เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2555 และเป็นผู้รับใบอนุญาตในปัจจุบัน วันที่ 16 พฤษภาคม 2551 โรงเรียนอนุบาลต้นกล้าสาธิตและโรงเรียนสาธิตพัฒนา ได้เข้าร่วมกิจการโดยใช้ชื่อว่า "โรงเรียนสาธิตพัฒนา" โดยขยายชั้นเรียนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
และวันที่ 16 พฤษภาคม 2554 โรงเรียนสาธิตพัฒนา ได้ขยายชั้นเรียนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
![]()
สำหรับด้านอาคารเรียนมีการดำเนินการต่อเนื่องเป็นระยะๆ ดังนี้
ปีการศึกษา 2549 โรงเรียนมีอาคารเรียนสำหรับระดับปฐมวัยมีลักษณะเหมือนบ้านที่อยู่อาศัย 2 ชั้น จำนวน 6 หลัง เป็นอาคารเรียนสำหรับนักเรียนเตรียมอนุบาล และระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1 ระดับชั้นละ 3 และ 4 ห้องเรียน ตามลำดับ จำนวน 4 หลัง อาคารสำหรับงานธุรการ จำนวน 1 หลัง อาคารรับรอง และห้องพยาบาลจำนวน 1 หลัง และอาคารชั้นเดียวสำหรับเป็นห้องรับประทานอาหารของนักเรียน จำนวน 1 หลัง ส่วนนักเรียนระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 3 ห้องเรียน และระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 2 ห้องเรียน จะใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งของอาคารปูชนียะ ซึ่งเป็นอาคารเรียนของระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาด้วย ปีการศึกษา 2552 โรงเรียนขยายพื้นที่เพิ่มเติมในระดับปฐมวัย โดยก่อสร้างอาคารปฐมวัย เป็นอาคารคอนกรีต 2 ชั้น ตรงข้ามกับอาคารปูชนียะ รวมทั้งได้สร้างสระว่ายน้ำในร่มขนาดมาตรฐานโอลิมปิก อาคารกีฬาในร่ม ห้องประชุม และโรงอาหารขนาด 525 ที่นั่ง เพื่อให้เพียงพอสำหรับใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ และเป็นที่รับประทานอาหารของนักเรียน
ปีการศึกษา 2553 โรงเรียนได้เปิดใช้อาคารต้นกล้าสาธิต 1 และอาคารต้นกล้าสาธิต 2 ซึ่งเป็นอาคารเรียนใหม่สำหรับระดับปฐมวัย รวมถึงได้เปิดใช้สนามกีฬาในร่ม มีที่นั่งของผู้ชม 744 ที่นั่ง และเปิดใช้สระว่ายน้ำในร่มขนาดมาตรฐานโอลิมปิก มีที่นั่งของผู้ชม 645 ที่นั่ง และโรงอาหารใหม่ขนาด 525 ที่นั่ง เพื่อเพิ่มเนื้อที่สำหรับการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ และนันทนาการของนักเรียน รวมทั้งใช้เป็นที่ประชุมผู้ปกครอง และกิจกรรมในวันสำคัญต่างๆ ของโรงเรียน
ปีการศึกษา 2554 โรงเรียนได้มีการปรับปรุงแหล่งศึกษาค้นคว้าที่ทันสมัย และเป็นสากลคือ ห้องสมุด E-library มีเนื้อที่ขนาด 256 ตารางเมตร มีการแบ่งส่วนของการใช้บริการได้อย่างครอบคลุมให้กับนักเรียนทั้งโรงเรียน รวมทั้งมีการปรับปรุงห้องบริหารงานวิชาการ งานกิจการนักเรียน และอื่นๆ เพื่อรองรับการเจริญเติบโตการดำเนินงานของโรงเรียน และในปีนี้โรงเรียนได้ขยายชั้นเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2554 ด้วย ![]() ![]() ![]()
ปีการศึกษา 2555 โรงเรียนมีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้น
จำนวนมากและครบทุกระดับชั้น ตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาลจนถึง
ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนจึงเตรียมการวางแผนรองรับจำนวน
นักเรียนในปีการศึกษา 2556 โดยสร้างอาคารเรียนระดับมัธยมศึกษา
เป็นอาคาร 5 ชั้น อีก 1 หลัง ประกอบด้วยห้องต่างๆ ได้แก่
ห้องวิชาการ ห้องกิจการนักเรียน ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์
ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการทางเคมี ห้องปฏิบัติการทางฟิสิกส์
ห้องปฏิบัติการทางชีววิทยา ห้องปฏิบัติการทางภาษา ห้องเรียน
วิชาพิเศษ ห้องโสตทัศนศิลป์ ห้องพักครูชาวต่างประเทศ และห้องอาจารย์อาวุโส รวมทั้งห้องประชุมขนาดใหญ่ที่รองรับการปฏิบัติกิจกรรมได้หลากหลาย ซึ่งพร้อมที่จะเปิดใช้ในปีการศึกษา 2556
ในขณะเดียวกันโรงเรียนได้ดำเนินการปรับห้องต่างๆ ของอาคารปูชนียะให้รองรับการปฏิบัติงาน และเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียนมากขึ้น เช่น ห้องวิชาการ ห้องทะเบียนวัดและประเมินผล ห้องสหกรณ์
ห้องเรียนดนตรี-นาฏศิลป์ อาศรมครูผู้เรียนรู้ ห้องรับรอง และอื่นๆ
ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนมีอาคารวิชชาพัฒน์ เป็นอาคาร 5 ชั้น ประกอบด้วยห้องเรียนที่มีอุปกรณ์ครบครัน ห้องปฏิบัติการ ทางวิทยาศาสตร์ 3 ห้อง สำหรับวิชาฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา ซึ่งมีอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัยประกอบการจัดการเรียนรู้ของครู ห้องปฏิบัติการทางภาษาที่สามารถรองรับนักเรียนได้เพียงพอ ทุกกลุ่มวิชา (ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส) ห้องสมุด E-library ที่มีหนังสือ สื่อสิ่งพิมพ์ CD DVD ไว้บริการ โดยแบ่งเป็นมุมสำหรับ นักเรียนที่ต้องทำงานเป็นกลุ่ม หรือต้องการปลีกวิเวกคนเดียว มีโดมความรู้ที่สามารถทำงานเฉพาะกลุ่มประมาณ 8-10 คน มุมอาศรมครูผู้เรียนรู้สำหรับให้ครูได้ศึกษาค้นคว้า ห้องคอมพิวเตอร์ ให้นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านโลกอินเตอร์เน็ต และห้องประชุมขนาด 700 ที่นั่ง ประกอบด้วย อุปกรณ์เครื่องเสียงและสื่อที่ทันสมัยไว้รองรับ กิจกรรมต่างๆ ที่จะส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน
นักเรียนโรงเรียนสาธิตพัฒนามีสมรรถนะการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นผู้นำตนเองในการเรียนรู้สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อบรรลุศักยภาพสูงสุดของตน เติบโตเป็นพลเมืองดี มีความสุขและสร้างสิ่งที่ดีให้แก่สังคม
โรงเรียนสาธิตพัฒนาจัดการศึกษาแบบองค์รวมในสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่อบอุ่นและปลอดภัย เพื่อพัฒนานักเรียนอย่างรอบด้าน ส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข ตามความสนใจ มีคุณธรรมค่านิยมที่ดีงาม และประสบความสำเร็จตามศักยภาพของตน
• Self-disciplined (S): มีวินัยในตนเอง
• Thoughtful (T): มีความรอบคอบ • Integrity (I): ความซื่อสัตย์สุจริต • Perseverance, Progress (P): ความพยายาม มุ่งมั่นพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้า • Adaptability (A): มีความสามารถในการปรับตัว ![]()
![]() School Director ![]() Deputy Director Academic Affairs & Research for Primary Programme ![]() Deputy Director Student Services & Wellbeing for Primary Programme ![]() Deputy Director Academic Affairs & Research for Early Years Programme ![]() Deputy Director Student Services & Wellbeing for Early Years Programme ![]() Deputy Director Planning & School Quality Assurance ![]() Assistant Director Public & Community Relations ![]() Assistant Director : Head of Primary Cambridge English ![]() Assistant Director : Head of Primary Teaching & Learning ![]() School Manager
1. ค่าแรกเข้า 30,000 บาท เฉพาะนักเรียนใหม่ทุกระดับชั้น ตั้งแต่ปีการศึกษา 2567 เป็นต้นไป (ชำระครั้งเดียว) 2. ค่าธรรมเนียมการศึกษา และ ค่าอาหารต่อภาคเรียน ทั้งนักเรียนปัจจุบันและนักเรียนใหม่ (1 ปีการศึกษา มี 2 ภาคเรียน)
หลักเกณฑ์การคืนเงินค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าธรรมเนียมอื่น ผู้ปกครองที่ชำระค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าอาหารกลางวันและค่าอาหารว่างแล้ว มีความประสงค์จะขอคืนเงินให้แจ้งความประสงค์ขอลาออกและขอคืนเงินเป็นลายลักษณ์อักษร โดยโรงเรียนมีหลักเกณฑ์การคืนเงินค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าอาหารกลางวันและค่าอาหารว่าง ดังนี้ 1. ยืนใบลาออกก่อนเปิดภาคเรียนหรือหลังการเปิดเรียนไปแล้วไม่เกิน 7 วันทำการ คืนค่าธรรมเนียมการศึกษาในอัตราร้อยละ 70 และคืนค่าอาหารกลางวันและอาหารว่างคืนเต็มจำนวน 2. หากพ้นกำหนดตาม ข้อ 1 ทางโรงเรียนไม่สามารถคืนเงินคืนได้ในทุกกรณี หมายเหตุ : โรงเรียนยังคงสิทธิ์ให้แก่ผู้ปกครองที่มีบุตรเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยได้รับส่วนลดอัตราค่าธรรมเนียมการศึกษาสำหรับบุตรคนที่ 3 ในอัตราครึ่งหนึ่งของอัตราค่าธรรมเนียมการศึกษาปกติที่โรงเรียนเรียกเก็บตามประกาศโรงเรียนสาธิตพัฒนา เรื่อง อัตราค่าธรรมเนียมการศึกษาสำหรับผู้ปกครองที่มีบุตรเกิน 2 คนในอัตราพิเศษ
1. ค่าแรกเข้า 30,000 บาท เฉพาะนักเรียนใหม่ทุกระดับชั้น ตั้งแต่ปีการศึกษา 2568 เป็นต้นไป (ชำระครั้งเดียว) 2. ค่าธรรมเนียมการศึกษา และ ค่าอาหารต่อภาคเรียน ทั้งนักเรียนปัจจุบันและนักเรียนใหม่ (1 ปีการศึกษา มี 2 ภาคเรียน)
ข้อมูล ณ วันที่ 16 มกราคม 2568 หลักเกณฑ์การคืนเงินค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าธรรมเนียมอื่น ผู้ปกครองที่ชำระค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าอาหารกลางวันและค่าอาหารว่างแล้ว มีความประสงค์จะขอคืนเงินให้แจ้งความประสงค์ขอลาออกและขอคืนเงินเป็นลายลักษณ์อักษร โดยโรงเรียนมีหลักเกณฑ์การคืนเงินค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าอาหารกลางวันและค่าอาหารว่าง ดังนี้ 1. ยืนใบลาออกก่อนเปิดภาคเรียนหรือหลังการเปิดเรียนไปแล้วไม่เกิน 7 วันทำการ คืนค่าธรรมเนียมการศึกษาในอัตราร้อยละ 70 และคืนค่าอาหารกลางวันและอาหารว่างคืนเต็มจำนวน 2. หากพ้นกำหนดตาม ข้อ 1 ทางโรงเรียนไม่สามารถคืนเงินคืนได้ในทุกกรณี หมายเหตุ : โรงเรียนยังคงสิทธิ์ให้แก่ผู้ปกครองที่มีบุตรเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยได้รับส่วนลดอัตราค่าธรรมเนียมการศึกษาสำหรับบุตรคนที่ 3 ในอัตราครึ่งหนึ่งของอัตราค่าธรรมเนียมการศึกษาปกติที่โรงเรียนเรียกเก็บตามประกาศโรงเรียนสาธิตพัฒนา เรื่อง อัตราค่าธรรมเนียมการศึกษาสำหรับผู้ปกครองที่มีบุตรเกิน 2 คนในอัตราพิเศษ
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
© SATIT PATTANA SCHOOL. All rights reserved. [ขณะนี้ออนไลน์ 25 ท่าน]
|